การแสดงผลงานศิลปะของเด็กปฐมวัย
สารบัญ
1. ความเป็นมาของสารนิทัศน์สำหรับเด็กปฐมวัย
2. ความหมายสารนิทัศน์สำหรับเด็กปฐมวัย
3. ความสำคัญของสารนิทัศน์สำหรับเด็กปฐมวัย
4. วัตถุประสงค์ในการสารนิทัศน์สำหรับเด็กปฐมวัย
5. ประเภทของสารนิทัศน์สำหรับเด็กปฐมวัย
6.สารนิทัศน์สำหรับเด็กปฐมวัยเพื่อการศึกษา
ประเภทสารนิทัศน์สำหรับเด็กปฐมวัยเพื่อการศึกษา
- สารนิทัศน์ในห้องเรียน
- สารนิทัศน์นอกห้องเรียน
-
สารนิทัศน์ในระบบโรงเรียน
-
สารนิทัศน์นอกระบบโรงเรียน
7. สารนิทัศน์จากผลงานเด็กปฐมวัย
8. บทสรุป
ความเป็นมาของสารนิทัศน์สำหรับเด็กปฐมวัย
สารนิทัศน์สำหรับเด็กปฐมวัยเกิดจากแนวคิดของกลุ่มพิพัฒนิยม
อาทิ ดิวอี้ พีอาเจท์ ไวก็อตสกี มาลากุชชี
ที่เน้นให้เด็กสร้างองค์ความรู้ด้วยการลงมือกระทำ
ครูปฐมวัยที่รับแนวคิดของกลุ่มพิพัฒนิยม เช่นครูในโรงเรียนของ เรกจิโอ เอมิเลีย
จึงจัดประสบการณ์ที่ยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง
และมีประสบการณ์ในการเก็บข้อมูลเป็นลักฐานแสดงให้เห็นทั้งกระบวนการ
และผลของการจัดประสบการณ์ของตนกับเด็ก และการเรียนรู้ของเด็ก
ทำให้เด็กเห็นความทรงจำที่เป้นรูปธรรมมากกว่าว่าตนพูดอะไร ทำอะไร
เพื่อก้าวไปสู่การเรียนรู้ชั้นต่อไป
ทำให้นักการศึกษามีเครื่องมือศึกษาค้นคว้าเพื่อพัฒนาและปรับปรุงตนเอง
ในประเทศไทย
สารนิทัศน์สำหรับเด็กปฐมวัยปรากฏในหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2546
ที่ระบุแนวทางการจัดประสบการณ์ให้ครูปฐมวัยจัดทำสารนิทัศน์
ด้วยการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กเป็นรายบุคคล
นำมาไตร่ตรองและใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาเด็กและการวิจัยในชั้นเรียน
อีกทั้งมาตรฐานการศึกษาปฐมวัยเพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาปฐมวัย
ระบุมาตรฐานด้านการจัดการศึกษาไว้ในมาตรฐานที่ 5
ที่ให้ครูปฏิบัติงานตามบทบาทหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล
ความหมายของสารนิทัศน์สำหรับเด็กปฐมวัย
“สารนิทัศน์”เป็นคำที่ชัยยงค์พรหมวงศ์นักการศึกษาไทยใช้เรียกในความหมายของคำในภาษาอังกฤษว่า“ Documentation”
สารนิทัศน์ประกอบด้วยคำว่า“ สาระ” หมายถึงส่วนสำคัญถ้อยคำและคำว่า“
นิทัศน์” หมายถึงตัวอย่างที่นำมาแสดงให้เห็น (พัชรีผลโยธิน2543: 100) ทั้งนี้มีผู้ให้ความหมายของสารนิทัศน์สำหรับเด็กปฐมวัยไว้ดังนี้
แคทซ์และชาร์ด(Katz
&Chard,1996:1)ให้ความหมายสารนิทัศน์ว่าหมายถึงตัวอย่างงานเด็กภาพถ่ายงานเด็กที่แสดงความก้าวหน้าข้อคิดเห็นของครูและผู้เกี่ยวข้องกับเด็กบทสนทนาอภิปรายของเด็กรวมทั้งการแสดงความคิดเห็นและบรรยายให้เห็นความมุ่งมั่นในการทำกิจกรรมและการแสดงความคิดเห็นของพ่อแม่ผู้ปกครอง
เฮล์มเบเนเก้และสไตน์เฮเมอร์
(Helm,
Beneke & Steinheimer, 2007 cited in Helm, 2010: 15) ได้ให้ความหมายสารนิทัศน์ว่าหมายถึงการจัดให้มีข้อมูลหลักฐาน
(The provision of evidence) และหลักฐานนั้นจะต้องแสดงให้เห็นถึงการเติบโตในความรู้(growth in knowledge)ทักษะ(Skils) และจิตนิสัย
(dispositions) ของเด็ก
มาร์เทลล่า
(Martella,2010:43) ได้ให้ความหมายของคำสำคัญ“ สารนิทัศน์”
ที่เชื่อมโยงไปถึงมาตรฐานและการวัดประเมินสำหรับเด็กปฐมวัยว่าหมายถึงกระบวนการในการติดตามและรักษาผลงานเด็กสำหรับเป็นหลักฐานความก้าวหน้าของตัวเด็กและการพัฒนาการจัดโปรแกรมสำหรับเด็กปฐมวัย
ดาลเบิร์กมอสและเพนซ์
(Dahlberg,
Moss & Pence, 1999 cited in O'Neill, 2013: 1) ให้ความหมายของสารนิทัศน์ในมุมมองของวิชาครูหรือการสอนว่าสารนิทัศน์เป็นได้ทั้งกระบวนการและเนื้อหาภายในกระบวนการนั้นคือ
1. ส่วนที่เป็นเนื้อหา (Content) คือหลักฐานต่างๆที่บันทึกสิ่งที่เด็กพูดและกระทำซึ่งการรวบรวมเนื้อหานี้สามารถทำได้หลายรูปแบบอาจเป็นลายมือที่เด็กเขียนภาพเขียนภาพถ่ายการบันทึกเสียงการบันทึกภาพและตัวอย่างผลงานเด็ก
2. ส่วนที่เป็นกระบวนการ
(Process)
คือการสะท้อนความคิดต่อหลักฐานเป็นความร่วมมือการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือแนวคิดทฤษฎีของนักการศึกษาและผู้เกี่ยวข้องรวมทั้งพ่อแม่และตัวเด็กปฐมวัยเองทั้งนี้อาจจะสะท้อนความคิดคนเดียวหรือสะท้อนความคิดกับบุคคลอื่น
รินาลดิ (Rinaldi, 1994 cited in Wurm, 2005: 98) ให้ความหมายสารนิทัศน์ว่าหมายถึงกระบวนการรวบรวมหลักฐานและสิ่งที่เกิดขึ้นภายในชั้นเรียนรวมทั้งหลักฐานทางกายภาพและวัตถุที่เด็กสร้างขึ้นการไตร่ตรองและการวิเคราะห์สิ่งที่รวบรวมและการนำเสนอสิ่งที่รวบรวมทั้งหมดหรือบางส่วนแก่เด็กครูและผู้ใหญ่อื่นรวมทั้งครอบครัวและผู้ชมด้วยวิธีการที่ทำให้เห็นการเรียนรู้ของเด็กได้ชัดเจนตัวอย่างเช่นบอร์ดสารนิทัศน์วิดีโอวัตถุที่เป็นผลผลิตของเด็กพร้อมการสังเกตหรือสไลด์แสดงกระบวนการ
บุษบงตันติวงศ์
(2541:
41) ให้ความหมายสารนิทัศน์ว่าหมายถึงการจัดระบบหลักฐานเกี่ยวกับการเรียนรู้ของเด็กและการสอนของครูตามหลักการประเมินตามสภาพจริงและหลักการสอนแบบโครงการพัชรีผลโยธิน
(2543: 100-101) ให้ความหมายสารนิทัศน์ว่าหมายถึงส่วนสำคัญที่นำมาเป็นตัวอย่างแสดงให้ผู้อื่นเห็นหรือการจัดทำข้อมูลที่จะเป็นหลักฐานหรือแสดงให้เห็นร่องรอยของการเจริญเติบโตพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยจากการทำกิจกรรมของเด็กทั้งที่เป็นรายบุคคลและเป็นรายกลุ่มเกสรกอทอง
(2545) ให้ความหมายสารนิทัศน์ว่าหมายถึงผลงานหรืองานที่เกิดจากการกระทำของเด็กที่เป็นตัวอย่างการแสดงออกถึงความสามารถของเด็กที่กระทำโดยตัวเด็กเองในกิจกรรมการเรียนการสอนที่โรงเรียนบันทึกการบอกเล่าของเด็กโดยครูรวมถึงการบันทึกของครูที่ได้จากการสังเกตพฤติกรรมของเด็กในขณะทำกิจกรรม
สรุปได้ว่าสารนิทัศน์สำหรับเด็กปฐมวัยหมายถึงข้อมูลที่เป็นหลักฐานอาจเป็นคำพูดการกระทำผลงานของเด็กหรือการสะท้อนตนเองของเด็กและผู้เกี่ยวข้องสะท้อนความคิดเกี่ยวกับเด็กรวมถึงการจัดทำหลักฐานแสดงให้เห็นการเจริญเติบโตพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย
https://www.stou.ac.th/Offices/rdec/Lampang/main/ebook/21005/21005-13.pdf
ความสําคัญของสารนิทัศน์สําหรับเด็กปฐมวัย
สารนิทัศน์มีความสําคัญต่อเด็กปฐมวัยและผู้เกี่ยวข้องกับเด็กปฐมวัยหลายประการ
(Katz
& Chard, 1996 Booker, Carter & Nimmo, 1999, ศิรประภา
พงศ์ไทย 2542, พัชรี ผลโยธิน 2543) ดังนี้
1. ช่วยทําให้ค้นพบ
และเห็นพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยอย่างชัดเจนทุกด้าน ทั้งด้านร่างกาย
อารมณ์-จิตใจ สังคม และสติปัญญา
ซึ่งไม่สามารถเห็นได้ในแบบทดสอบมาตรฐานและแบบสังเกตรายการ
2. ช่วยสร้างเสริมการเรียนรู้ของครู
ทําให้ครูเข้าใจพัฒนาการและการเรียนรู้ที่มีความหมายและเป็นรูปธรรม ของเด็กปฐมวัย
รวมทั้งเห็นกระบวนการเรียนรู้ของตนเองในการจัดการชั้นเรียน การจัดประสบการณ์
การประเมินจาก สภาพจริง ตลอดจนพฤติกรรมปฏิสัมพันธ์กับเด็ก
3. ช่วยให้ได้ข้อมูลที่นําไปใช้ในการพิจารณาสร้างเสริมพฤติกรรม
และการเรียนรู้สําหรับเด็กปฐมวัย ทั้ง การศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย
ทําให้เด็กปฐมวัยพัฒนาทั้งด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคม และ สติปัญญา
4. ช่วยเชื่อมโยงหลักการทฤษฎีสู่การปฏิบัติ ทําให้ผู้เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็กปฐมวัยตระหนักถึงสิ่งที่ตน
ปฏิบัติ เข้าใจตนเอง และมีทิศทางในอนาคต โดยเฉพาะพ่อแม่ผู้ปกครอง
และชุมชนมีความเชื่อ ศรัทธาต่อระบบการ เรียนการสอนแบบยึดผู้เรียนเป็นสําคัญ
5. ช่วยทําให้ผู้เกี่ยวข้องกับเด็กปฐมวัยกําหนดเป้าหมายบทบาทในการพัฒนา
และการประเมินตนเองตาม - บริบทที่เป็นจริง ทําให้เกิดแรงจูงใจภายใน มีความตื่นตัว
และกระตือรือร้นในการแสวงหาความรู้ เพื่อพัฒนาเด็ก
ปฐมวัยและวิชาชีพของตนเองอย่างสม่ําเสมอ
6. ช่วยสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ที่เข้มแข็งให้กับครอบครัว
สถานศึกษา และชุมชน ได้เห็นวิถีทางที่ เด็กปฐมวัยเรียนรู้ เจริญเติบโต
และเกิดพัฒนาการในด้านต่างๆ สารนิทัศน์ช่วยให้สถาบัน ดังกล่าวตระหนักใน
ประสบการณ์ที่เด็กได้รับ ทําให้ต้องทบทวนบทบาทของตนในการพัฒนาเด็ก
เช่นบทบาทการเป็นพ่อแม่ ครู ฯลฯ และ
มุมมองเกี่ยวกับประสบการณ์ความเป็นอยู่ในชีวิตของเด็ก นอกจากนี้
การแสดงความคิดเห็นในงานของเด็กยังช่วย ทําให้สารนิทัศน์มีคุณค่ายิ่งขึ้น
7. ช่วยพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาได้อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
สนองความต้องการในการประกัน คุณภาพ และการปฏิรูปการพัฒนาวิชาชีพของครู
เป็นหลักฐานการประกันคุณภาพของการจัดการศึกษาระดับปฐมวัย ภายในสถานพัฒนาเด็ก
หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กปฐมวัยได้เป็นอย่างดี
สรุปได้ว่า
สารนิทัศน์สําหรับเด็กปฐมวัยมีความสําคัญหลายประการ อาทิ
ช่วยให้เห็นพัฒนาการและการเรียนรู้ ของเด็กปฐมวัยอย่างชัดเจนทุกด้าน
ทําให้ครูเข้าใจพัฒนาการและการเรียนรู้ที่มีความหมาย และเป็นรูปธรรมของเด็ก ปฐมวัย
ช่วยให้ข้อมูลที่นําไปใช้ในการพิจารณาสร้างเสริมพฤติกรรมและการเรียนรู้สําหรับเด็กปฐมวัย
วัตถุประสงค์ในการจัดทำสารนิทัศน์สำหรับเด็กปฐมวัย
การจัดทำสารนิทัศน์ที่หลากหลาย จะช่วยครูในแง่ของการตรวจสอบคุณภาพของการศึกษาที่ดี เนื่องจากการศึกษาในปัจจุบันเน้นการประเมินเพื่อตรวจสอบความเข้มแข็งของการศึกษา ซึ่งส่งผลให้โรงเรียนและหน่วยงานที่จัดโปรแกรมการศึกษาปฐมวัย ต้องปรับปรุงประสิทธิภาพของการจัดการศึกษาอย่างสม่ำเสมอ ทำให้บางหน่วยงานนำแบบทดสอบมาตรฐานซึ่งไม่เหมาะสมมาประเมินเด็กปฐมวัย ครูที่จัดทำสารนิทัศนอ์ย่างสม่ำเสมอ จะจัดประสบการณ์ให้กับเด็กได้สอดคล้องปัญหาและพัฒนาการเด็ก ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาสมองอย่างชัดเจน สารนิทัศน์สามารถช่วยครูให้จัดประสบการณ์ให้กับเด็กได้ตรงประเด็น เนื่องจากงานวิจัยเกี่ยวกับสมองพบว่า เด็กจะเกิดการเรียนรู้ได้ดี หากเข้าไปมีส่วนร่วมและลงมือปฏิบัติ กระบวนการเรียนรู้ที่สัมพันธ์กับความรู้สึกและอารมณ์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเรียนรู้ของเด็ก ครูจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อจัดทำสารนิทัศน์ เพราะจะมีการวางแผนทั้งด้านการจัดชั้นเรียน การตัดสินใจว่าจะทำอะไรก่อนหลัง รวมถึงการใช้คำถามเพื่อกระตุ้นเด็ก เนื่องจากครูมีข้อมูลและสารสนเทศที่สามารถนำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การจัดทำสารนิทัศน์ช่วยให้ครูรู้ว่าเด็กรู้อะไรมาบ้างแล้ว จะช่วยให้ครูก้าวถึงขั้นต่อไปของเด็กได้ง่ายขึ้น สนองตอบความต้องการของเด็กได้อย่างสอดคล้องและสิ่งที่ต้องการพัฒนา อย่างแท้จริงสารนิทัศน์ช่วยให้ครูบรรลุความต้องการเฉพาะของเด็กได้ดีกว่า เนื่องจากปัจจุบันเด็กที่มีความต้องการพิเศษ ในระบบการศึกษาปกติมีมากขึ้น ทั้งเด็กที่มีความสามารถพิเศษ เด็กพิการทางกาย เด็กที่มีปัญหาทางการ เรียนรู้ ข้อมูลที่ครูได้จากสารนิทัศน์จะช่วยให้ครูเข้าใจและวางแผนให้ เด็กได้ เหมาะสมยิ่งขึ้น เด็กรับรู้ความสำคัญของการเรียนรู้ เมื่อครูเก็บบันทึกสารนิทัศน์การเรียนรู้ของตัวเด็กเองรวมถึงการรวบรวมผลงานการจัดทำสารนิทัศน์ของเด็กที่ร่วมชั้นเรียน การแสดงผลงานที่ส่งเสริมให้เด็กได้แสดงสิ่งที่ตนเรียนรู้จากประสบการณ์การค้นพบด้วยตนเองหรือกับกลุ่ม ส่งผลให้เด็กเอาใจใส่รับผิดชอบการทำงาน รู้จักประเมิน ตนเอง แสดง ออกถึงความพึงพอใจในกระบวนการเรียนรู้และผลที่ได้รับ เด็กเริ่มเรียนรู้ว่าจะทำอะไร และจะนำเหตุการณ์หรือสิ่งที่ตนเรียนรู้ เรื่องใดมานำเสนอและร่วมจัดทำสารนิทัศน์กับเพื่อนและครูในชั้นเรียน การจัดสารนิทัศน์ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองมีความรู้ความเข้าใจในพัฒนาการของเด็ก ตระหนักในประสบการณ์ การเรียนรู้ของเด็กขณะอยู่ที่โรงเรียน และสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมกับกิจกรรมของโรงเรียนได้หลายทาง เช่น รับฟังความคิดเห็นของเด็ก ช่วยเด็กทำวัสดุอุปกรณ์ที่เด็กต้องการ ให้ข้อเสนอแนะช่วยเขียนในสิ่งที่เด็กคิด อ่านหนังสือให้เด็กฟัง เป็นต้น ทำให้มีโอกาสทบทวนบทบาทการเป็นพ่อแม่ ดังนั้นข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของพ่อแม่ผู้ปกครองเกี่ยวกับผลงานของเด็กจึงถือว่าเป็นสิ่งที่มีค่าที่ครูไม่ควรมองข้าม
https://gift191240.blogspot.com/p/blog-page_7.html
ประเภทของสารนิทัศน์สำหรับเด็กปฐมวัย
การจัดทำสารนิทัศน์ (Documentation)
เป็นการจัดทำข้อมูลที่เป็นหลักฐานหรือแสดงให้เห็นร่องรอยของการเจริญเติบโต
พัฒนาการและการเรียนรูข้องเด็กปฐมวัยจากการทำกิจกรรมทั้ง รายบุคคลและรายกลุ่ม ซึ่งหลักฐานและข้อมูลที่บันทึกเป็นระยะๆ
จะเป็นข้อมูลอธิบายภาพเด็ก สามารถบ่งบอกถึงพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย อารมณ์สังคม
และสติปัญญา สารนิทัศน์เป็นการประมวลผลที่แสดงให้เห็นถึงกระบวนการจัดการเรียนการสอนของครูและร่องรอยผลงานของเด็ก
จากการทำกิจกรรมที่สะท้อนถึงพัฒนาการในด้านต่างๆ การจัดทำสารนิทัศน์จึงเป็นส่วนหนึ่ง
ของกระบวนการวัดและประเมินพัฒนาการเด็กปฐมวัย ซึ่งมี 5
ประเภท ได้แก่
สารนิทัศน์ประเภทที่ 1 การบรรยายเรื่องราวหรือประสบการณ์
เช่น การสอนแบบโครงการ (Project Approach) สามารถให้สารนิทัศน์เกี่ยวกับพัฒนาการเด็กทุกด้าน
ทั้งประสบการณ์การเรียนรู ้ของเด็กและการสะท้อนตนเองของครู
รูปแบบการบรรยายเรื่องราวจึงมีหลายรูปแบบ อาจได ้จากการบันทึกการสนทนาระหว่างเด็กกับครูเด็กกับเด็ก
การบันทึกของครูการบรรยายของพ่อแม่ผู้ปกครองในรูปแบบหนังสือหรือจดหมาย แม้กระทั่งการจัดแสดงบรรยายสรุปให้เห็นภาพการเรียนรู้ทั้งหมด
ภาพที่ 1 สารนิทัศน์การบรรยายเรื่องราวหรือประสบการณ์
ภาพที่ 2 สารนิทัศน์การบรรยายเรื่องราวหรือประสบการณ์
สารนิทัศน์ประเภทที่ 2 การสังเกตพัฒนาการเด็ก เช่น
ใช้แบบสังเกตพัฒนาการ การบันทึกสั้น เป็นต้น การสะท้อนตนเองของเด็ก เป็นคำพูดหรือข้อความที่สะท้อนความรู้
ความเข้าใจ ความรู้สึกจากการสนทนา การอภิปรายแสดงความคิดเห็นของเด็กขณะทำกิจกรรม
ซึ่งอาจบันทึกด้วยแถบบันทึกเสียงหรือแถบ บันทึกภาพ
ภาพที่ 3 สารนิทัศน์การสังเกตพัฒนาการเด็ก
ภาพที่ 4 สารนิทัศน์การสังเกตพัฒนาการเด็ก
สารนิทัศน์ประเภทที่ 3 แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
1. แฟ้มสะสมงานสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการสอนเป็นรายบุคคลได้เป็นอย่างดี
เพราะนักเรียนแต่ละคนจะมีแฟ้มสะสมงานเป็นของตนเอง มีการสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นลักษณะเฉพาะของตนเอง
ครูจะทราบ จุดเด่นและจุดด้อยของนักเรียนแต่คนจากแฟ้มสะสมงานผลงาน
2. แฟ้มสะสมงานจะเน้นจุดเด่นมากกว่าจุดด้อยของนักเรียน
ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนเกิดความชื่นชมในผลงานของตนเอง สำหรับจุดอ่อนนั้น
ครูก็จะนำไปวางแผนจัดกิจกรรมการเรียนการสอน การทดสอบแบบเดิมมักตรวจหาความผิดพลาด
หรือข้อบกพร่องของนักเรียน
3. แฟ้มสะสมงานจะเน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลาง
ซึ่งนักเรียนจะเป็นผู้วางแผนลงมือทำผลงาน
ประเมินและปรับปรุงผลงานด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง โดยมีครูจะช่วยชี้แนะ
นักเรียนเป็นเจ้าของผลงาน เจ้าของแฟ้มสะสมงาน
ผลงานของนักเรียนต้องมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับสภาพชีวิตจริงๆ
4. แฟ้มสะสมงานช่วยสื่อความหมายในเรื่องความรู้
ความสามารถ และทักษะของนักเรียนในเรื่องต่างๆ
รวมทั้งความก้าวหน้าและพัฒนาการของนักเรียนแก่คนอื่น เช่น ผู้ปกครอง นักแนะแนว ครูผู้สอน
และผู้บริหารโรงเรียนได้เป็นอย่างดี
5. การประเมินโดยใช้แฟ้มสะสมงานยังมีปัญหาเรื่องความเชื่อมั่น
หรือความเห็นที่สอดคล้องกันในการประเมิน
ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากการกำหนดเกณฑ์ในการประเมินไม่ค่อยชัดเจน
หากผู้ประเมินยึดองค์ประกอบของการประเมินต่างกัน จะมีผลทำให้ความเชื่อมั่น
หรือความสอดคล้องของการประเมินมีค่าต่ำ
ภาพที่ 5 สารนิทัศน์แฟ้มสะสมผลงาน
สารนิทัศน์ประเภทที่ 4 ผลงานรายบุคคลและรายกลุ่ม
1. แสดงให้เห็นพัฒนาการและการเรียนรู้ทั้งในด้านความรู้ทักษะและเจตคติของเด็ก
โดยครูจะนำผลงานเด็กมาวิเคราะห์พัฒนาการและการเรียนรู้จากกระบวนการทำงานและผลงานของเด็กผ่านการทำโครงงาน
2. การเก็บผลงานคนมีหลากหลายประเภททั้งผลงานการเขียนผลงานศิลปะ
ผังใยแมงมุมที่แสดงการร่วมกันระดมความคิดหรือแผนภาพ
ภาพร่างชิ้นงานหรือสิ่งประดิษฐ์
ที่แสดงให้เห็นถึงการเรียนรู้
ความสามารถ ทักษะจิตนิสัยของเด็ก
ครูที่ชำนาญจะนำผลงานของเด็กมาใช้ดูพัฒนาการและกระบวนการทำงานของเด็ก
ครูส่วนใหญ่มักจะเก็บผลงาน
ภาพที่ 6 สารนิทัศน์ผลงานรายบุคคลและรายกลุ่ม
ภาพที่ 7 สารนิทัศน์ผลงานรายบุคคลและรายกลุ่ม
สารนิทัศน์ประเภทที่ 5
การสะท้อนตนเอง
การสะท้อนตัวตนของเด็กสามารถบันทึกไว้โดยการเขียนด้วยลายมือบันทึกเสียงพูดของเด็กบันทึกวิดีโอหรือในรูปแบบอื่น
เช่น ครูนำคำพูดของเด็กมาอภิปรายและให้เด็กร่วมกันไตร่ตรองคำพูดของตนเองกับเด็กคนอื่น
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่ต้องการ แต่ไม่ว่าจะนำเสนอในรูปแบบใดก็ตามควรพิจารณาให้เชื่อมโยงหรือสอดคล้องกับหน้าต่างการเรียนรู้ที่ต้องการนำเสนอ
ภาพที่ 8 สารนิทัศน์การสะท้อนตนเอง
ภาพที่ 9 สารนิทัศน์การสะท้อนตนเอง
6.สารนิทัศน์สำหรับเด็กปฐมวัยเพื่อการศึกษา
ประเภทสารนิทัศน์สำหรับเด็กปฐมวัยเพื่อการศึกษา
- สารนิทัศน์ในห้องเรียน
สารนิทัศน์การจัดทำข้อมูลที่เป็นหลักฐานหรือแสดงให้เห็นร่องรอยของการเจริญเติบโต
พัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยจากการทำกิจกรรมทั้งรายบุคคลและรายกลุ่ม หลักฐานและข้อมูลดังกล่าวที่บันทึกเป็นระยะๆจะเป็นข้อมูลอธิบายภาพเด็กที่บ่งบอกถึงพัฒนาการของเด็กได้ทั้งร่างกาย
จิตใจ สังคมสติปัญญา ตลอดจนการเรียนรู้ทั้งในด้านความรู้ ทักษะและเจตคติ สะท้อนพัฒนาการและการเรียนรู้ที่บรรลุมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของหลักสูตรและตัวชี้วัดตามมาตรฐานการเรียนรู้
ภาพที่ 10 กิจกรรมสารนิทัศน์ Project
Approach
(ที่มา : http://www.abpk.ac.th/ece/photo/item/333-openhouse20)
- สารนิทัศน์นอกห้องเรียน)
สารนิทัศน์จัดแสดงข้อมูลหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับเด็ก
โดยพิจารณาว่าข้อมูลใด แบบใดควรนำมาแลกเปลี่ยนและนำมาจัดแสดงให้เห็นพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็ก
และให้เด็กมีส่วนร่วมในการเลือกผลงานของตนหรือของกลุ่ม มีการสะท้อนความคิด
และร่วมจัดตรียมแสดงข้อมูลดังกล่าวโดยอาจจะเป็นบอร์ดสารนิทัศน์ หรือ นิทรรศการ
ภาพที่ 11 สารนิทัศน์นอกห้องเรียน
(ที่มา : https://slideplayer.in.th/slide/2861942/)
ภาพที่ 12 กิจกรรมสารนิทัศน์แผนกปฐมวัยโรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา
- สารนิทัศน์ในระบบโรงเรียน
สารนิทัศน์จัดเพื่อแสดงคุณภาพของการจัดการศึกษาปฐมวัย
เพื่อเสริมการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย เพื่อเห็นภาพการพัฒนาและการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย
เพื่อวัดและประเมินเด็กปฐมวัย เพื่อสื่อสารกับผู้เกี่ยวข้องกับเด็กปฐมวัย
และเพื่อพัฒนาวิชาชีพของผู้เกี่ยวข้องกับเด็กปฐมวัยในสถานศึกษา

ภาพที่ 13 กิจกรรมสารนิทัศน์ Project
Approach
(ที่มา : http://www.abpk.ac.th/ece/photo/item/333-openhouse20)
- สารนิทัศน์นอกระบบโรงเรียน
สารนิทัศน์ที่หาชมได้ภายนอกโรงเรียน
อาจจะเป็นสารนิทัศน์ที่จะไว้แบบถาวรหรือจัดไว้แบบชั่วคราว เช่น พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ
พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง พิพิธภัณฑ์ชาวนา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ฯลฯ

ภาพที่ 14 พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ จังหวัดหนองคาย
(ที่มา : http://i-san.tourismthailand.org/557/)
ภาพที่ 15 พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง
(ที่มา : https://www.voicetv.co.th/read/1855)
สารนิทัศน์จากผลงานเด็กปฐมวัย
ดังภาพต่อไปนี้

ภาพที่ 16 เด็กถือผลงานที่ตัวเองทำ
(ที่มา http://www.as.ac.th/Activities/Activities2562/05)
ภาพที่ 18 ภาพผลงานของเด็ก
(ที่มา http://www.as.ac.th/Activities/Activities2562/05)
ภาพที่ 19 ภาพผลงานของเด็ก
(ที่มา https://www.google.co.th/search?q)

ภาพที่ 20 กิจกรรมสารนิทัศน์
(ที่มา http://www.abpk.ac.th/ece/photo/item/333-openhouse20#gallery2584732e8e-1)

ภาพที่ 21 กิจกรรมสารนิทัสน์
(ที่มา http://www.abpk.ac.th/ece/photo/item/333-openhouse20#gallery2584732e8e-1)
บทสรุป
ความเป็นมาของสารนิทัศน์ระบุว่าเป็นข้อมูหลักฐานที่อาจเป็นลายมือที่เขียน
ภาพเขียน ผลงาน คำพูด การกระทำ ฯลฯ
สารนิทัศน์สำหรับเด็กปฐมวัยเกิดจากแนวคิดของกลุ่มพิพัฒนิยม อาทิ ดิวอี้
พีอาเจท์ ไวก็อตสกี มาลากุชชี ที่เน้นให้เด็กสร้างองค์ความรู้ด้วยการลงมือกระทำ
ในประเทศไทย สารนิทัศน์สำหรับเด็กปฐมวัยปรากฏในหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช
2546 ที่ระบุแนวทางการจัดประสบการณ์ให้ครูปฐมวัยจัดทำสารนิทัศน์
ด้วยการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กเป็นรายบุคคล
นำมาไตร่ตรองและใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาเด็กและการวิจัยในชั้นเรียน
สารนิทัศน์สำหรับเด็กปฐมวัยหมายถึงข้อมูลที่เป็นหลักฐานอาจเป็นคำพูดการกระทำผลงานของเด็กหรือการสะท้อนตนเองของเด็กและผู้เกี่ยวข้องสะท้อนความคิดเกี่ยวกับเด็กรวมถึงการจัดทำหลักฐานแสดงให้เห็นการเจริญเติบโตพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย
วัตถุประสงค์ในการสารนิทัศน์สำหรับเด็กปฐมวัย
จะช่วยครูในแง่ของการตรวจสอบคุณภาพของการศึกษาที่ดี ครูที่จัดทำสารนิทัศนอ์ย่างสม่ำเสมอ
จะจัดประสบการณ์ให้กับเด็กได้สอดคล้องปัญหาและพัฒนาการเด็ก ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาสมองอย่างชัดเจน
สารนิทัศน์สามารถช่วยครูให้จัดประสบการณ์ให้กับเด็กได้ตรงประเด็น การจัดสารนิทัศน์ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองมีความรู้ความเข้าใจในพัฒนาการของเด็ก
ตระหนักในประสบการณ์ การเรียนรู้ของเด็กขณะอยู่ที่โรงเรียน
ประเภทของสารนิทัศน์สำหรับเด็กปฐมวัยมี
5 ประเภท ได้แก่ สารนิทัศน์ประเภทที่ 1 การบรรยายเรื่องราวหรือประสบการณ์ เช่น การสอนแบบโครงการ
เรื่องราวจากการบันทึกการสนทนาระหว่างเด็กกับครูเด็กกับเด็ก ผู้ปกครองกับเด็ก สารนิทัศน์ประเภทที่
2 การสังเกตพัฒนาการเด็ก เช่น ใช้แบบสังเกตพัฒนาการสารนิทัศน์ประเภทที่ 3 แฟ้มสะสมผลงาน
(Portfolio) สารนิทัศน์ประเภทที่ 4 ผลงานรายบุคคลและรายกลุ่มสารนิทัศน์ประเภทที่ 5
การสะท้อนตนเอง อื่น เช่น ครูนำคำพูดของเด็กมาอภิปรายและให้เด็กร่วมกันไตร่ตรองคำพูดของตนเองกับเด็กคนอื่น
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่ต้องการ แต่จะนำเสนอในรูปแบบใดก็ตามควรพิจารณาให้เชื่อมโยงหรือสอดคล้องกับหน้าต่างการเรียนรู้ที่ต้องการนำเสนอ
ประเภทสารนิทัศน์สำหรับเด็กปฐมวัยเพื่อการศึกษา สารนิทัศน์ในห้องเรียน สารนิทัศน์นอกห้องเรียน สารนิทัศน์ในระบบโรงเรียน สารนิทัศน์นอกระบบโรงเรียน
เอกสารอ้างอิง
จันจิรา พัลเรืองศิลป์. [2562]. สารนิทัศน์การสังเกตพัฒนาการเด็ก.
ที่มา : https://gift191240.blogspot.com/p/blog-page_7.html
นภสร พรหมณี. [2560]. สารนิทัศน์แฟ้มสะสมผลงาน.
ที่มา : https://sites.google.com/site/napa456780/khxmul-thawpi
ปิ่นทอง
นันทะลาด.[2560].การแสดงผลงานศิลปะของเด็กปฐมวัย.
ที่มา : http://portal5.udru.ac.th/ebook/pdf/upload/18t1z4SzWnaw4W18S11L.pdf
พัชรี ผลโยธิน. [2543]. ประเภทของสารนิทัศน์สำหรับเด็กปฐมวัย.
ที่มา : https://www.stou.ac.th/Offices/rdec/Lampang/main/ebook/21005/21005-13.pdf
วิจัยในชั้นเรียนเอกสารหมายเลข 1.สารนิทัศน์ประเภทที่ 1 การบรรยายเรื่องราวหรือประสบการณ์.
อรพรรณ บุตรกตัญญู. [2558]. การจัดสารนิทัศน์
(DOCUMENTATION).
ที่มา : https://slideplayer.in.th/slide/2861942/
- ให้ปรับหัวข้อ ปรับแหล่งที่มา เอาตัวที่ 1 ออก ควรสืบค้นจากเอกสาร ตำรา หนังสือหลักที่มีการเรียบเรียง ตีพิมพ์เผยแพร่
ตอบลบ- ส่งงานแก้ไข ครั้งที่ 2 มาได้แล้วค่ะ / ครูยังไม่เห็นส่งมานะคะ
sudarat668878@gmail.com
ตอบลบthapanee06154.3159@gmail.com
นักศึกษาสามารถใช้เค้าโครงเอกสารนี้ได้ค่ะ
ตอบลบ[ หัวข้อตามที่เสนอเป็นสารบัญ ]
1. ความหมาย 2. ความสำคัญ 3. จุดประสงค์ในการจัดนิทรรศการผลงานเด็กปฐมวัย
4. ประวัติของการจัดนิทรรศการ 5. การจัดนิทรรศการเพื่อการศึกษา
6. ประเภทของการจัดนิทรรศการเพื่อการศึกษา
7. การจัดนิทรรศการผลงานเด็กปฐมวัย
8. การจัดนิทรรศการจากผลงานเด็กปฐมวัย
หัวข้อท้าย ๆ ควรเสนอให้มีรายละเอียด มีตัวอย่าง (จากหลายแหล่งข้อมุล)
และ เชื่อมโยงไปถึงการจัดแสดงผลงานเด็กรูปแบบต่างๆ เพิ่มเติมด้วย
สรุปคำแนะนำ คือ สามารถใช้เป็นเอกสารหลักได้
แต่ไม่ควร “คัดลอก” มาทั้งหมดจากเอกสารเพียงแหล่งเดียว
ควรมีการเรียบเรียงหรือร้อยเรียงเนื้อหาขึ้นใหม่
> การร้อยเรียง หมายถึง การจัดประเด็นหลัก ประเด็นรอง การยกตัวอย่าง/หรือการประยุกต์ใช้ในสภาพจริงซึ่งส่วนนี้อาจจะเป็นข้อมูลที่สืบค้นเพิ่มเติมมาจากงานวิจัยหรือแหล่งข้อมูลอื่น ๆ การสัมภาษณ์หรือศึกษาจากสภาพห้องเรียนจริงก็สามารถนำมาใช้ได้ดีค่ะ
>> การทำงานในลักษณะนี้ จึงเรียกว่าเป็นการศึกษาค้นคว้าและ นำเสนอผลงานจากการศึกษาค้นคว้าของกลุ่ม โดยมีการจัดการกับเนื้อหา (อ่านสรุป/คัดเลือกเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง ตรงประเด็นที่ต้องการนำเสนอ) มีการจัดรูปแบบ มีการคัดเลือก/หรือจัดทำคลิป ตลอดจนส่วนประกอบอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ลงไปในบล็อก (หน้าเว็บ)
>>> ควรมีการประชุมวางแผนแบ่งหน้าที่ ความรับผิดชอบให้ชัดเจนด้วยค่ะ
/ อ.ทิพจุฑา