วัสดุ อุปกรณ์ในการจัดกิจกรรมศิลปะสำหรับเด็กปฐมวัย
เค้าโครงเนื้อหาที่นำเสนอ
- บทนำ
วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในงานศิลปะ
การเลือกวัสดุเหลือใช้วัสดุท้องถิ่นและเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในกิจกรรมศิลปะ
ศิลปะกับเทคโนโลยีดิจิทัล
ศิลปะดิจิทัล
สื่อศิลปะยุคใหม่ ก้าวไกลด้วยเทคโนโลยี
ศิลปะกับภูมิปัญญาท้องถิ่น
รูปแบบงานศิลปะในท้องถิ่น
รูปแบบงานศิลปะในเทคโนโลยีดิจิทัล
การสร้างสรรค์งานศิลปะดิจิทัล
- บทสรุป
- คำถาม
บทนำ
วัสดุอุปกรณ์ในการจัดกิจกรรมสำหรับเด็กปฐมวัยเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้สอนต้องคำนึงถึงความปลอดภัย ซึ่งการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง แต่เป็นการเลือกใช้ที่ทำให้เกิดประโยชน์และหาง่ายตามท้องถิ่นทั่วไปสามารถใช้แทนกันได้ ในปัจจุบันเทคโนโลยีมีการพัฒนาไปแพร่หลายผู้สอนสามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาจัดกิจกรรมศิลปะสำหรับเด็กปฐมวัยได้
วัสดุ อุปกรณ์ การนำภูมิปัญญาวัสดุท้องถิ่นและเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในงานศิลปะ
1. กระดาษประเภทต่าง ๆ
กระดาษมีหลายประเภท สามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับงานศิลปะ หากเป็นงานศิลปะประเภทสีน้ำ ก็ควรเลือกประเภทที่มีความหนาพอสมควร แต่หากเป็นงานวาดภาพ ก็สามารถเลือกชนิดหนาปานกลาง หากเป็นงานตัดควรเลือกชนิดบาง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีชนิดที่มีสีหน้าเดียวและ สองหน้าอีกด้วย การเลือกกระดาษมาใช้กับงานศิลปะเด็กไม่ควรเลือกสีสะท้อนแสงจะเป็นอันตรายต่อสายตาของเด็กได้ และกระดาษที่ใช้ในงานฉีกปะก็ไม่ควรใช้ชนิดหนาหรือเหนียว เพราะจะลำบากในการฉีกส่งผลต่ออารมณ์ในการทำงานของเด็ก โดยกระดาษที่เหมาะสมในการนำมาใช้มีดังนี้
1.1 กระดาษวาดเขียน มีทั้งแบบเรียบสองด้าน และแบบด้านหนึ่งเรียบอีกด้านหนึ่งหยาบซึ่งแบบนี้เหมาะกับการใช้ในการวาดภาพสีน้ำเพื่อไม่ให้สีไหลออกจากบริเวณที่ระบาย
กระดาษวาด เขียน มีขนาดความหนาเรียกเป็นปอนด์ มีตั้งแต่ 60
ปอนด์ 80 ปอนด์ และ 100 ปอนด์
1.2 กระดาษปรู๊ฟ เป็นกระดาษที่มีการนำเยื่อของกระดาษที่ใช้แล้วมาผสม จึงมีส่วนผสมของเยื่อบดที่มีเส้นใยสั้น
กระดาษปรู๊ฟมีน้ำหนักเบาเพียง 40 – 52 กรัม/ตารางเมตร
มีสีอมเหลืองราคาไม่แพงแต่ความแข็งแรงน้อย ซึมน้ำได้ง่าย เหมาะสำหรับงานพิมพ์หนังสือพิมพ์
และเอกสารที่ไม่ต้องการคุณภาพมาก นิยมนำมาให้เด็กวาดภาพอิสระ
โดยติดไว้ที่ผนังห้อง
1.3 กระดาษโปสเตอร์สี มี 2 ชนิด คือ ชนิดหนาและชนิดบาง โดยมีสีให้เลือกหลากหลายตามความต้องการ
เหมาะสำหรับการผลิตสื่อการสอนและการจัดป้ายนิเทศ เป็นต้น
1.4 กระดาษย่น มี 2 ชนิด
คือชนิด 2 ชั้นและชั้นเดียว มีลักษณะยืดหยุ่นได้เหมาะสำหรับงานประดิษฐ์เป็นดอกไม้หรือตุ๊กตา
1.5 กระดาษสา มีทั้งชนิดหนาและชนิดบาง มีลักษณะที่ผลิตจากเส้นใยจากพืชต้นสาเลือกใช้ได้ทั้งแบบผลิตจากเครื่องและแบบผลิตจากธรรมชาติ โดยจะมีความหนา และผิวขรุขระมากกว่า ชนิดที่ผลิตจากเครื่อง สามารถนำมาใช้กับงานศิลปะได้หลากหลายและนำมาผลิตสื่อได้อย่างสวยงาม
1.6 กระดาษหนังสือพิมพ์ ทำจากเยื่อไม้ราคาถูก
คุณภาพต่ำ เมื่อเก็บไว้นาน ๆ จะเปลี่ยนจากสีขาวหม่นเป็นสีเหลือง
นิยมพิมพ์เป็นเอกสาร
2.สี สีมีความสำคัญต่อการสร้างสรรค์งานศิลปะ สีมีหลายชนิดหลายลักษณะที่แตกต่างกันสามารถเลือกได้ตามความต้องการของงานแต่ละประเภท สีมีลักษณะทั้งชนิดเป็นครีม เป็นน้ำเป็นผงเป็นแท่ง บางชนิดอาจใช้ผสมกับน้ำหรือผสมกับน้ำมัน โดยแบ่งเป็น 2 ประเภทดังนี้
2.1 สีวิทยาศาสตร์ หมายถึง สีสังเคราะห์ที่มีส่วนผสมของสารเคมี แป้ง น้ำมัน วัสดุที่ทำให้เกิด
ลักษณะที่แตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะสมกับงานแต่ละประเภท ซึ่งสีแต่ละประเภทสามารถนำไปใช้งานได้
ดังนี้

2.1.1 สีน้ำ(หลอด) ส่วนใหญ่มี 12 สีสำหรับใช้กับการวาดภาพของเด็ก
2.1.2 สีฝุ่น มีลักษณะเป็นผงนำมาผสมกับน้ำดีกาวน้ำ ใช้ส่วนผสมทั้ง 3 ส่วนต่อน้ำ 1 ส่วน ถ้าข้นไปให้เติมน้ำเพื่อให้ระบายหรือวาดได้ โดยใช้อุปกรณ์พู่กันในการระบายสี ประโยชน์ของสีฝุ่นคือ ราคาถูก หาซื้อได้ง่าย
2.1.4 สีชอล์ค มีลักษณะเป็นผงชอล์กอัดแท่ง มีส่วนผสมของน้ำมัน
เหมาะสำหรับเด็กปฐมวัย
ที่มา : http://ktipandtrick.blogspot.com/2016/09/blog-post_87.html
2.1.5 สีไม้
ไส้ดินสอสีไม้เป็นสีต่าง ๆ หลายสี ปัจจุบันมีให้เลือกทั้งแบบสีไม้ธรรมดา
และสีไม้แบบระบายน้ำ มีทั้งแบบแท่งเล็กและแท่งใหญ่
2.1.6 สีผสมอาหาร มี 2 ชนิด คือ ชนิดที่เป็นผงและชนิดที่เป็นน้ำ
สามารถนำมาผสม
กับน้ำหรือกาวน้ำ
เพื่อใช้กับงานศิลปะของเด็กปฐมวัยได้ เพราะไม่มีอันตราย
2.2 สีธรรมชาติ หมายถึง
สีที่ได้จากพืชหรือสัตว์ที่สามารถให้สีตามธรรมชาติ เพื่อนำมาใช้
ประโยชน์ทางงานศิลปะ ซึ่งสามารถนำมาใช้ได้หลายชนิด
ดังนี้
2.2.1 สีเหลือง ได้จาก ขมิ้น ไพล ดอกบานบุรี ดอกสุพรรณิการ์
2.2.2 สีน้ำเงิน ได้จากครามย้อมผ้า หรือผงคราม ลูกหมึก และดอกอัญชัน
2.2.3 สีน้ำตาล ได้จาก ดินลูกรัง(ป่นละเอียดผสมน้ำ)
ยางไม้บางประเภท ไพลผสม
ปูนแดง
2.2.4 สีเขียว ได้จาก
ใบเตย ใบตำลึง ใบพู่ระหง ใบย่านาง
2.2.5 สีแดง ได้จาก ปูนแดง หมึกแดง ยาแดง ยาอุทัยทิพย์ ดอกกระเจี๊ยบ
2.2.6 สีชมพู ได้จาก ดอกกุหลาบ ดอกกุหลาบเซียงไฮ เปลือกแก้วมังกร
2.2.7 สีม่วง ได้จาก ดอกอัญชัน(ผสมน้ ามะนาว) เปลือกมังคุด
2.2.8 สีแสด ได้จาก ปูนแดง ดอกสุพรรณิการ์
2.2.9 สีดำ ได้จาก ลูกมะเกลือ หมึกดำ เขม่า กาบมะพร้าวเผา
สีเป็นวัสดุหลักที่ใช้ในการสร้างสรรค์งานศิลปะ
ช่วยสร้างสีสันและกระตุ้นจินตนาการ และเป็นการเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ ๆ สำหรับเด็ก
จากสีที่มาจากแหล่งเรียนรู้ สีที่นำมาให้เด็กได้ใช้ควรเป็นทั้งสีที่สังเคราะห์ขึ้น
คือ วิทยาศาสตร์ ซึ่งมีหลายชนิด คุณลักษณะก็แตกต่างกันไปสามารถเลือกได้ตามลักษณะของงานศิลปะที่ใช้
และยังมีสีที่ได้จากธรรมชาติ คือจากสีพืช และจากสิ่งแวดล้อม เช่น หิน ดิน
ซึ่งถือเป็นสีที่หาได้ง่ายและปลอดภัยและนิยมน ามาใช้ในสถานศึกษาอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน
3. ประเภทกาว
กาว
เป็นวัสดุสำหรับการยึดติดงานศิลปะให้สมบูรณ์ในการประกอบเป็นชิ้นงาน อาจใช้เพื่อ เป็นการผสมในส่วนผสมของชิ้นงาน
หรือใช้เป็นวัสดุในการปะติด
3.1 กาวน้ำ ทำจากยางกระถิน จะมีขายสำเร็จเป็นขวด มีลักษณะใสและเหนียว สำหรับใช้
ผสมกับสีฝุ่น
หรือสีโปสเตอร์ในการสร้างภาพ หรือใช้ในการติดกิจกรรมการโรยทราย
3.2 กาวลาเท็กซ์ เป็นกาวที่มีลักษณะขุ่น เหนียว ใช้ได้กับทุกชิ้นงาน สามารถใช้ได้กับวัสดุ
ที่เป็นกระดาษ
พลาสติก และไม้ได้เป็นอย่างดี ไม่เลอะเทอะ
3.3 แป้งเปียก สำหรับใช้ผสมสี ขี้เลื่อย เพื่อติดท าหุ่น หรือหน้ากาก
งานเปเปอร์อาร์ตที่ต้อง ใช้กาวติดยึดกระดาษที่ซ้อนกันหลายชั้น เพื่อให้เกิดความหนา
สามารถทำได้เองโดยใช้แป้งมัน 1ถ้วย ต่อน้ำ 3 ถ้วย ละลายตั้งไฟ กวนให้สุก
งานศิลปะหลายแขน มีการเลือกใช้กาวในการสร้างสรรค์งาน
เช่น งานประติมากรรมงานปั้น หรืองานศิลปะประดิษฐ์ อาจต้องนำกาวมาเป็นตัวประสาน
ประกอบให้งานมีรูปทรงตาม ต้องการโดยเลือกให้เหมาะสมกับวัสดุแต่ละชนิด ถ้าต้องการสร้างภาพพิมพ์และให้สีเกาะบนกระดาษใส่กาวน้ำเป็นส่วนผสมในสี
เช่นเดียวกับการสร้างงาน ฉีก ตัด ปะ หรืองานประดิษฐ์ก็ต้องนำกาวมาช่วยในการยึดติดวัสดุต่าง
ๆ จะทำให้งานเสร็จสมบูรณ์ได้
4. เทปกาว
4.1 เทปใส มีหลายขนาดใช้ในการติดภาพ เหมาะกับวัสดุที่เป็นกระดาษ
4.2 เทปผ้า ใช้สำหรับหุ้มปกสมุดงานหรือเล่มหนังสือ
4.3 เทปโฟมสองหน้า ใช้สำหรับการติดที่ต้องการให้วัสดุเกาะแน่นกับผนัง
5. กรรไกร
5.1 กรรไกรธรรมดา ใช้สำหรับการตัดวัสดุทั้งผ้า
กระดาษ พลาสติก ควรเลือกให้มีขนาด
เหมาะสมกับงาน
5.2
กรรไกรซิกแซกลวดลาย
มีลายให้เลือกใช้หลายแบบเพื่อใช้ตกแต่งตัวอักษร หรือกรอบของภาพให้สวยงามเพื่อตกแต่งงานป้ายนิเทศทั้งนี้กรรไกรเป็นอุปกรณ์ที่เด็กชอบมากชนิดหนึ่ง
กรรไกรที่จะนำมาให้เด็กใช้จะต้องเป็นกรรไกรปลายมน มีขนาดพอเหมาะกับมือเด็ก ไม่ทื่อ
ง้างออกไม่ยาก หรือหลวมจนกระทั่งใช้ตัดกระดาษไม่ออก ผู้สอนจะต้องสำรวจกรรไกรทุกเล่มก่อนให้เด็กใช้
เพราะถ้าเด็กพบความบกพร่อง ดังกล่าวข้างต้นแล้ว ก็จะทำให้เด็กคับข้องใจ ไม่อยากท
างานศิลปะที่มีกรรไกรเป็นเครื่องมือประกอบทั้งจะต้องตกลงกับเด็กถึงขอบข่ายการใช้กรรไกรให้ดี
เพราะบางคนอาจจะนำไปตัดผม หรือเสื้อผ้าของเพื่อนได้
เด็กที่ถนัดมือซ้ายก็ควรมีกรรไกรสำหรับมือซ้ายให้เขาด้วยเช่นกัน (สิริพรรณ
ตันติรัตน์ไพศาล, 2545: 52)
6. ไม้บรรทัด
ไม้บรรทัด เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการวัดตำแหน่งของวัสดุ หรือวัดเพื่อกำหนดขนาดของตัวอักษร
ที่มา: https://bdcargoexpress.com/?product=Alibaba1688-abb-573536879620
7. จํานวนสีจานสี
8. พู่กัน
พู่กัน เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการวาดภาพด้วยสีน้ำสำหรับเด็กปฐมวัยนิยมใช้พู่กันเบอร์
11 ทั้งแบบ พู่กันแบน หรือพู่กันกลม
เด็กควรเลือกใช้พู่กันในการวาดภาพส่วนต่าง ๆ ครูอาจเตรียมอุปกรณ์
อื่นไว้ให้เด็กใช้แทนพู่กันได้ เช่น ผู้พันจากฟองน้ำ หรือพู่กันจากขนนก เป็นต้น
9. กระดานตั้งสำหรับวาดภาพ
กระดานตั้งสำหรับวาดภาพ
ที่มีกระบะด้านล่างในการรองรับอุปกรณ์ในการใส่สีและผู้กัน
ควรมีความสูงที่เหมาะสมกับเด็กปฐมวัยที่สามารถยืนวาดภาพได้สะดวก
10. ผ้ากันเปื้อนพลาสติก
ผ้ากันเปื้อนพลาสติก
สำหรับให้เด็กสวมใส่ก่อนเล่นวาดภาพสีน้ำ เพื่อป้องกันสีเปื้อน
เสื้อผ้า
11. ที่เก็บผลงาน
ที่เก็บผลงาน
ควรจัดเตรียมสถานที่เพื่อแขวนผลงานให้สีแห้งก่อนน ามาเก็บใส่แฟ้ม หรือ
จัดแสดงบนป้ายนิเทศ
สรุปได้ว่า
การสร้างงานศิลปะต้องใช้วัสดุหรืออุปกรณ์อีกหลายชนิดในการสร้างสรรค์งาน เช่น
เทปกาว
กรรไกร ไม้บรรทัด จานสี พู่กัน กระดานตั้งสำหรับวาดภาพ ฯลฯ
เป็นสิ่งที่มีส่วนให้งานทีสร้างสรรค์ เสร็จสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
การสร้างสรรค์งานศิลปะหลายแขนงจึงมีความจำเป็นในการเลือกใช้
วัสดุและอุปกรณ์อีกหลายประเภทที่มีส่วนในการสร้างงานให้สวยงามประณีตได้
ที่มา http://portal5.udru.ac.th/.../180rJ10L7515700Ru8t8.pdf
การเลือกวัสดุเหลือใช้วัสดุท้องถิ่นและเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในกิจกรรมศิลปะ
ก่อนการจัดกิจกรรมศิลปะครูสามารถวางแผนในการจัดหาวัสดุเพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์
โดยอาจแยกได้ดังต่อไปนี้(วิบูลลักษณ์ สารจิตร, 2548: 219)
1. เครื่องใช้สำนักงาน ได้แก่ หนังสือพิมพ์ริบบิ้น
แกนกระดาษทิชชู โบชัวร์โฆษณาสินค้า กระดาษปฏิทินที่ไม่ใช้แล้วปากกา กระดาษปอนด์
เป็นต้น
2. วัสดุและเครื่องใช้ในบ้าน ได้แก่เสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้ว
หรือเศษผ้า ของใช้ที่ชำรุด ตะกร้า กระจาด เศษโลหะ ถ้วยไอศกรีมมะกะโรนี ฟองน้ำ
ขวดชนิดต่าง ๆ เช่น ขวดแชมพู ขวดน้ำหอม ขวดน้ำเปล่า ขวดซอส ขวดน้ำหวานขวดน้ำยาล้างจาน
ขวดครีมทาผิว หรือกระปุกครีมทาหน้า ขวดเครื่องสำอาง กล่องขนมกล่องผลิตภัณฑ์ประเภทต่าง
ๆ เช่น ประเภทที่ทำจากโฟม กล่องประเภทที่ทำจากกระดาษกล่องประเภทพลาสติก ถุงผ้า
ถุงหรือกระเป๋าจากหนังสัตว์ สิ่งที่เหลือจากการรับประทานอาหาร เช่น เปลือกหอยกระดูก
เปลือกไข่ ก้างปลา กระดองปู เปลือกผลไม้ เป็นต้น
3. ก้อนหิน ได้ แก่ หิน ทราย กรวด เป็นต้น
4. จากสัตว์ เช่น ขนไก่ รังไหม
เกล็ดปลา เปลือกหอย ขนเป็ด เป็นต้น
5. จากพืช ได้แก่เมล็ดแตงโม ลูกสน
เมล็ดมะก่ำตาหนู เม็ดลำไย เม็ดทุเรียน เม็ดยาง เม็ดมะขาม เปลือกข้าวโพด
เปลือกต้นไม้ ลูกเนียง เปลือกถั่วลิสง กาบมะพร้าว กิ่งไม้ รากไม้ ต้นไม้ต่าง ๆ
เถาวัลย์ ย่านลิเพา เครือไม้ เป็นต้น
นอกจากนี้ สมจินต์ มนูญศิลป์ (2543: 2)
ยังได้อธิบายว่า ในการเลือกวัสดุเหลือใช้จากธรรมชาติ ควรพิจารณาก่อนที่จะนำมาใช้
เพราะวัสดุบางชนิดอาจเป็นอันตลายได้ จึงจำเป็นจะต้องศึกษาก่อนนำไปใช้์
โดยจะแบ่งวัสดุเหลือใช้ออกเป็น 3 ประเภทดังนี้
ประเภทที่ 1 วัสดุที่ได้จากของเหลือใช้ในชีวิตประจำวันทุกๆวันเศษวัสดุที่เหลือจากการใช้ในชีวิตประจำมีมากมาย เช่น กล่องยาสีฟัน กล่องสบู่ ขวดพลาสติก กล่องกระดาษต่างๆ เป็นต้น
ประเภทที่ 2
วัสดุที่เหลือใช้ที่ได้จากทรัพยากรธรรมชาติทั้งที่มีอยู่ในบ้านและนอกบ้าน โดยทั่วไป
อาจเก็บมาจากการไปทัศนาจร ท่องเที่ยว หรือเก็บไว้ตามฤดุการให้ผลิต เช่น เปลือกหอย ก้อนหิน ขนสัตว์ เมล็ดพืชต่าง ๆ
ประเภทที่ 3 วัสดุที่เหลือใช้จากโรงงานอุตสาหกรรมวัสดุที่เหลือใช้เหล่านี้สามารถนำมาประดิษฐ์เป็นสิ่งของได้ เช่น แกนหลอดด้ายขนาดและประเภทต่าง ๆ กระดาษลัง แผ่นพลาสติก เศษผ้า เป็นต้น
ที่มา http://portal5.udru.ac.th/.../180rJ10L7515700Ru8t8.pdf
ศิลปะกับเทคโนโลยีดิจิทัล
ศิลปะดิจิทัล
สื่อศิลปะยุคใหม่ ก้าวไกลด้วยเทคโนโลยี
ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วนั้น
ทำให้ระบบอานาล็อกที่ถูกใช้กันมาจนถึงปัจจุบันถูกพัฒนาไปอย่างต่อเนื่องจนเป็นระบบดิจิทัล
ไม่ว่าจะเป็น เพลง หนังสือหรือตำรา นอกจากนี้ในโลกของ ศิลปะดิจิทัล
ก็ถูกนำมาใช้ด้วยเช่นกัน ความหมายพื้นฐานของ ศิลปะดิจิทัล
คือศิลปะที่ถูกสร้างขึ้นโดยสื่อดิจิทัล อย่างเช่นภาพกราฟิก ภาพประกอบ
ภาพยนตร์ซึ่งถูกสร้างขึ้นด้วยรากฐานจากดิจิทัล นอกจากนี้ยังมีการนำอุปกรณ์ดิจิทัลและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มาใช้ทำศิลปะดิจิทัลทั่วไปอีกด้วย
สื่อศิลปะที่มีปฏิสัมพันธ์การมีปฏิสัมพันธ์เกิดขึ้นได้จากผู้ดูผลงานศิลปะ
กับตัวงานศิลปะ ที่ผู้สร้างผลงานต้องการจะสื่อสารให้กับผู้ดู เช่น
ผลงานจิตรกรรมหรือประติมากรรมสามารถทำให้เกิดอารมณ์สุนทรียะ
ความรู้สึกกับผู้ดูตามที่ศิลปินต้องการสื่อสาร เกิดความสะเทือนใจ สะกิดใจ
หรือเกิดคำถามต่อผู้ดูได้ เพราะตัวผลงานที่มีความแตกต่างกัน
อาจจะกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกได้ต่างกัน อย่างไรก็ตาม
ในการสร้างสรรค์สื่อศิลปะแบบประเพณีนั้นไม่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงตัวมันเองได้ระหว่างที่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ดูงานกับตัวผลงาน
ผลงานส่วนใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นบนคอมพิวเตอร์นั้น
จะจัดอยู่ในหมวดหมู่ของผลงานศิลปะดิจิทัล อย่างเช่นการ์ตูนอานิเมะ3มิติ
การสร้างแบบจำลอง3มิติ ภาพกราฟฟิกหรือรูปภาพที่เขียนด้วยคอมพิวเตอร์ เป็นศิลปะแบบใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยเทคโนโลยีดิจิทัล
ที่มา https://buddys-pet.com/media-topic/
ศิลปะกับภูมิปัญญาท้องถิ่น
ศิลปะ (Art)
มีความหมายที่สำคัญยิ่งกับชีวิตของมนุษย์ได้มีผู้ให้คำจำกัดความเอาไว้หลายอย่าง
แต่โดยสรุป ศิลปะคือผลงานที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์เพื่อประโยชน์และความงาม
คำว่าประโยชน์เป็นคำที่กว้างและคำว่าศิลปะก็สามารถที่จะครอบคลุมคำ ๆ นี้ได้จริง
ๆเพราะว่าในชีวิตของมนุษย์เราเกี่ยวข้องอยู่กับศิลปะตลอดเวลาตั้งแต่ตื่นลืมตาขึ้นจนถึงวันที่ดวงตาทั้ง2
ข้างต้องหลับสนิทความงดงามที่ปรากฏขึ้นได้ในโลกนี้ส่วนแล้วแต่มีที่มาจากความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ถึงแม้ว่าในยุคนี้จะไม่มีผู้คนจำนวนหมื่นแสนคนมารวมพลังกันสร้างสรรค์สิ่งมหัศจรรย์ให้ตื่นตาและเพิ่มศรัทธาได้อย่างในอดีตก็ตามแต่เราก็ยังมีสิ่งที่ยิ่งใหญ่ฝังลึกอยู่ในหัวใจของกลุ่มคนตามท้องถิ่นต่างๆ
ในสังคมน้อยใหญ่อีกเป็นจำนวนมากในเรื่องของขนาดใหญ่โตมโหฬารอาจจะไม่มีให้เห็นอีกหรืออาจจะมีก็ได้
แต่ในความประทับใจ (สุมทรียะ) น่าจะยังคงมีต่อไป
ภูมิปัญญาท้องถิ่น
(Wisdom) เป็นความรู้ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษได้แก่จากคนรุ่นหนึ่งส่งมายังคนอีกรุ่นหนึ่งเป็นทอด
ๆ กันมาเช่นคนรุ่นปู่สอนความรู้ในเรื่องอาชีพของตนให้กับลูก
(รุ่นพ่อ)และพ่อสอนความรู้ให้กับลูก
(รุ่นปัจจุบัน)ด้วยการสั่งสมความรู้ที่อาจจะมาจากความใกล้ชิด อยู่ในครอบครัวเดียวกันได้เห็นแบบอย่างและได้ร่วมปฏิบัติงานตามวิถีชีวิต
จึงเป็นการสั่งสม(สะสม) หรือรวบรวมเอาเข้าไว้ในชีวิตของคน ๆ หนึ่งอย่างช้าๆและอย่างต่อเนื่อง
และที่น่าภาคภูมิใจกับคนไทยก็คือบ้านเรามีผู้ที่ทรงคุณค่าทางความรู้ในเรื่องต่าง
ๆเฉพาะทางอยู่เป็นจำนวนมาก รอคอยให้ลูก หลาน เหลน โหลนเข้ามาศึกษาหัวใจคนไทยคิดอย่างไรคงไม่อาจจะทายใจได้เพียงแต่คิดเสียดายความมีเสน่ห์แห่งปัญญาที่หลายด้านสูญหายไปจากแผ่นดินของเรานานแล้วและกำลังมีอีกหลายอย่างที่จะทยอยจากเราไปเพราะไม่มีคนไปรับการสืบทอดและขาดการเหลียวแล
ที่มา https://www.gotoknow.org/posts/97082
รูปแบบงานศิลปะในท้องถิ่น
งานศิลปะในแต่ละท้องถิ่น จะมีลักษณะที่แตกต่างกันไปตามวัฒนธรรมประเพณีและความเป็นอยู่ของผู้คนในท้อง ถิ่นนั้น ๆ และมมีรูปแบบต่าง ๆ เช่น งานปั้น งานแกะสลัก งานเขียนภาพ เป็นต้น
1. งานปั้น เป็นผลงานศิลปะท้องถิ่นที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไป โดยเฉพาะในวัดและในสถานที่สำคัญของแต่ละท้องถิ่นนั้น ผลงานปั้นของบางท้องถิ่นสามารถสร้างชื่อเสียงจนเป็นที่รู้จักกันทั่วไป เช่น เครื่องปั้นดินเผาของ อ.ด่านเกวียน จ.นครราชสีมา เครื่องปั้นดินเผา ที่เกาะเกร็ด จ. นนทบุรี
2. งานแกะสลัก
งานแกะสลักที่พบในแต่ละท้องถิ่นจะมีความงดงามแตกต่างกัน
ซึ่งงานศิลปะประเภทนี้มักอยู่ในพวกของประดับตกแต่ง ของใช้ และสถานที่บางแห่ง เช่น
วัด บ้านเรือน เป็นต้น
3. งานเขียนภาพ
งานศิลปะประเภทนี้มีอยู่มากมายในท้องถิ่น เช่น ภาพเขียนผนังในวัด ซึ่งแสดงลวดลายและเล่าเรื่องในท้องถิ่นนั้น
งานเขียนภาพบางท้องถิ่นสามารถชื่อเสียงให้กับท้องถิ่นจนเป็นที่รู้จักกันทั่ว ไป
4. งานจักสาน
เป็นงานศิลปะที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของผู้คนในท้องถิ่นในการนำวัสดุ ต่าง ๆ
มาทำเป็นเครื่องจักสานต่าง ๆ ซึ่งแต่ละท้องถิ่นจะมีลักษณะและมีความสวยงามแตกต่างกันไป
นอกจากนี้ ยังมีงานศิลปะประเภทอื่น ๆ
ซึ่งในแต่ละท้องถิ่นจะแตกต่างกันไป เราจึงควรภูมิใจในผลงานศิลปะของท้องถิ่นตนเอง
รวมทั้งถ้ามีโอกาสควรช่วยกันสืบทอดให้อยู่คู่ท้องถิ่นของตนตลอดไป
ที่มา: https://krooluang.wordpress.com/
รูปแบบงานศิลปะในเทคโนโลยีดิจิทัล
การสร้างสรรค์งานศิลปะดิจิทัล
ดิจิทัลมีเดียนี้เป็นการสร้างสรรค์บนพื้นฐานหลักการของศิลปะ
การออกแบบ และการรับรู้ทางสายตา โดยมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องขององค์ประกอบศิลปะ
การสร้างความเป็นเอกภาพ ความกลมกลืน สมดุล การซ้ำและจังหวะ การเน้น และการสร้างจุดสนใจ
มุมมองทัศนียภาพ และหลักการทางทฤษฎีพื้นและภาพ ทฤษฎีการรับรู้
การผลิตสื่อดิจิทัลและขั้นตอนการสร้างสรรค์นั้น
คอมพิวเตอร์ โปรแกรมที่นำมาเป็นเครื่องมือในการสร้างสรรค์ ภาพ เสียง วิดีโอ
เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้เรียนได้ดึงศักยภาพของตนเองในด้านความคิดสร้างสรรค์ให้ปรากฏเป็นรูปธรรม
การสร้างสรรค์งานศิลปะดิจิทัลด้วยคอมพิวเตอร์ อาจจะไม่ได้ใช้ดินสอ
หรือพู่กันในการวาดภาพ ผู้ใช้อาจจะเขียนเส้นโค้ง หรือวงกลมไม่สวย
และไม่ต้องกังวลเพราะเครื่องมือในโปรแกรมสามารถช่วยให้ทำงานได้ง่ายขึ้นรวดเร็ว
แก้ไขได้ไม่จำกัด แต่ดิจิทัลอาร์ตก็ไม่สามารถที่จะแยกเรื่องของพื้นฐานทางศิลปะ
ความรู้เรื่องของสุนทรียภาพ รวมถึงหลักการออกแบบด้วย เพราะมีความสำคัญทั้งสองด้าน
ความเข้าใจทางด้านหลักการสร้างสรรค์งานศิลปะเป็นอย่างดี
และทักษะทางศิลปะจะช่วยให้การทำงาน สร้างสรรค์ดิจิทัลอาร์ตเป็นไปได้ด้วยดี
ความเข้าใจเรื่องแนวคิดของเครื่องมือและการรับรู้ของมนุษย์จะช่วยให้การสร้างสรรค์สามารถมีผลกระทบต่อผู้รับได้ดีขึ้นอีกด้วย
ที่มา https://buddys-pet.com/media-topic/
คำถาม
1. ข้อสงสัย
: หากไม่มีสีผสมอาหาร เราสามารถก็ไม่อาจจัดกิจกรรมวาดภาพด้วยสีน้ำได้ ใช่หรือไม่
ตอบ
ไม่ใช่ แทนที่จะใช้สีฝุ่นก็อาจเลือกวัสดุอย่างอื่นมาทดแทนได้ สีจากธรรมชาติ
ที่มีสามารถ หาได้จากท้องถิ่น และประหยัดต่อการซื้อสี เช่น สีแสด ดินแดงละลายนํ้า สีแดง
จากผลกระเจี๊ยบ สีเขียว จากใบไม้ ใบเตย สีม่วง ใบตำลึงหรือผักปลัง ฯลฯ
2. ข้อสงสัย
: หากวัสดุอุปกรณ์ไม่ครบตามจำนวน เด็ก
จำเป็นหรือไม่ที่คุณครูต้องหาวัสดุให้ครบจำนวนเด็ก ไม่ว่าอุปกรณ์เครื่องใช้ เช่น
สีเทียน พู่กัน ฯลฯ
ตอบ
ไม่จําเป็น
เพราะอาจจะให้เด็กใช้วัสดุอุปกรณ์ร่วมกันในลักษณะที่มีจำนวนไม่ครบตามจำนวนเด็กจะเอื้อให้เกิดการรอคอย
ความเสียสละ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ซึ่งคุณธรรมเหล่านี้เป็น นามธรรม ไม่อาจสอนเด็กโดยการใช้คำพูดชี้แจงให้ชัดเจนเพียงอย่างเดียวได้
จะเป็นการสังเกต พฤติกรรมของเด็กๆไปด้วย
และยังเป็นการปลูกฝั่งให้เด็กมีคุณธรรมจริยธรรม
อันดีงามนำไปสู่การเติบโตเป็นผู้ใหญ่
3. ข้อสงสัย
: หากไม่มีพู่กัน ก็จะทําให้วาดภาพด้วยสีน้ำไม่ได้ใช่ไหม
ตอบ
ไม่ใช่ เพราะอาจใช้วัสดุอื่นทดแทนได้ วัสดุสังเคราะห์ เช่น ฟองน้ำ ช้อน ส้อม ฯลฯ
หรือส่วนต่างของร่างกายเช่น นิ้วมือฝามือ ข้อศอก วัสดุจากธรรมชาติ เช่น ก้านกล้วย
ใบไม้ ฯลฯ ตัวอย่าง เช่น การใช้ฟองน้ำ จุ่มสีน้ำ ทำกิจกรรมพิมพ์ภาพจากวัสดุสังเคราะห์
kaithunchanok@gmail.com
ตอบลบSurasa24077@gmail.com
ตอบลบ- ควรมีภาพประกอบ (อย่าลืมระบุ อ้างอิง-แหล่งที่มาของภาพ ไว้ใต้ภาพด้วยค่ะ)
ตอบลบ- ใช้ประโยชน์จากการนำเสนอผ่านสื่อดิจิทัล ด้วยการเลือกสรร-คัดกรองภาพสวยๆ ที่นำมาอธิบายประกอบได้ดี/ชัดเจน
เพราะเราสามารถประหยัดค่ากระดาษ ค่าหมึก ถ้าจะต้อง print เอกสารแจกเพื่อนทุกคนในชั้นเรียน
กลุ่มนี้มีการสืบค้นเพ่ิ่มเติม เป็นการพัฒนาเนื้อหาที่มีรายละเอียดเกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมศิลปะสำหรับเด็กปฐมวัยมากขึ้น
ตอบลบการอ้างอิง - Link ที่จัดทำ ถูกต้อง เป็นการให้เครดิตงานต้นฉบับ และ เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน
ถ้าสมาชิกกลุ่มนำเนื้อหาที่สืบค้นมาจัด-เรียบเรียง จนสมบูรณ์แล้ว
ครูแนะนำให้ ตั้งคำถาม แบบสนทนากลุ่ม (อภิปรายภายในกลุ่มของเราเองค่ะ)
ว่านักศึกษามีข้อสงสัย และ อยากรู้อะไรเพิ่มเติมอีกบ้าง ถ้างานสมบูรณ์แล้ว ให้ OUTLINE ประกอบการนำเสนอ BLOG - จัดทำบทนำ บทสรุป และ ตั้งคำถามท้ายบท 3 ข้อ พร้อมแนวตอบ